วัน ณ กรรม ...ความรู้สึก

ข้อมูลเบื้องต้น

ชีวิตที่เริ่มต้น...ดำเนินไป และจบลง อย่างวุ่นวาย เรียบง่าย และสับสน มีทั้งสุข.. ทุกข์ ปนๆกันไปในแต่ละช่วงเวลา วนไปเวียนมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบในแต่ละวันตลอด 24 ชั่วโมง....  แต่ความจริงอย่างหนึ่งก็คือ...ยังมีลมหายใจ ไม่ว่าในแต่ละวันจะต้องพบ จะต้องเจอบททดสอบรูปแบบไหนก็ตาม ท้ายสุด ก็คือ ต้องอยู่ต่อไป...

เนื้อเรื่อง

วัน ณ กรรม ...ความรู้สึก

ชีวิตที่เริ่มต้น...ดำเนินไป และจบลง อย่างวุ่นวาย เรียบง่าย และสับสน มีทั้งสุข.. ทุกข์ ปนๆกันไปในแต่ละช่วงเวลา วนไปเวียนมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบในแต่ละวันตลอด 24 ชั่วโมง....  แต่ความจริงอย่างหนึ่งก็คือ...ยังมีลมหายใจ ไม่ว่าในแต่ละวันจะต้องพบ จะต้องเจอบททดสอบรูปแบบไหนก็ตาม ท้ายสุด ก็คือ “ต้องอยู่ต่อไป...”
ชีวิตไม่ใช่แม่สูตรคูณ จะได้ลงตัว ... เป็นตามที่คิดก็มีความสุขแต่ไม่เป็นไปตามที่คิดก็เป็นทุกข์ มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับ “ผลลัพธ์”
ความสุข คือ ทุกข์ให้น้อยที่สุด คิดว่า...ใช่ เพราะ ผู้คนส่วนใหญ่ จะมีความทุกข์ และเมื่อความทุกข์น้อยลง ก็เท่ากับว่าความสุขเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นหาวิธี “ลดระดับความทุกข์” ในร่างกาย
เหมือนถูก หยิก ที่หัวใจ...บ่อยๆ เวลาที่น้ำตาไม่ไหลออก แต่กลับไหลย้อนกลับไปข้างใน .....เศร้า เหงา และก็ทุกข์.... “ปวดใจ”
ยอมรับในสิ่งเกิด  อดทนในสิ่งที่เป็น ทำเหมือนว่าหัวใจยังแข็งแรง  สู้ๆ...เพราะเชื่อว่าทุกอย่างก็จะผ่านไป ...ถึงแม้ความเลวร้ายจะเวียนวาย มาหาเราอีก เช่นเคย...
ครึ่งหนึ่งของชีวิต ที่เราทำล้นหายไป ... และ ยังเหลืออีกครึ่งชีวิต ที่ยังอยู่กับเรา เสียใจจนตายก็เท่านั้น...ไม่เคยมองหันมาดูตัว ไม่เคยเสียดายวันเวลา ...ชีวิตมีคุณค่ากว่า เก็บชีวิตที่เหลือๆๆทำให้ดีจะได้ไหม แล้วไม่นานจิตใจจะเต็มเหมือนเดิม..(ส่วนหนึ่งของเพลง)
เคยสังเกตคนที่ตกเป็นจำเลยของสายตาคนอื่นๆ ไหม  ไม่ว่าการกระทำนั้นเกิดจากเจตนาหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่กลัวที่สุด คือ การถูกถาม ไม่ได้กลัวที่จะต้องตอบคำนั้น แต่กลัวว่าจะต้องรู้สึกไม่ดีกับคนที่ถาม(มันรู้แล้ว)
 เคยได้ยินมาว่า คนที่มีความ ริษยา  จะชอบขโมยความทุกข์ของผู้อื่น มาเป็นความสุขของตัวเอง ด้วยคำพูดโง่ๆเสมอ แต่ก็ได้ผล คนที่มีความทุกข์ ก็เหมือนถูกกระทืบซ้ำ...เพราะเจ็บจริงๆ
 อยู่กับตัวเอง ตั้งสติที่พอจะมี ...หัวใจจะได้เต้นได้ถูกจังหวะ กำหนดลมหายใจเข้าออก ให้เป็นปกติ แล้วดำเนินชีวิตต่อไป เหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น(ยิ้มเสมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องของเรา)
 ทุกข์ก็ใจกำหนด  สุขก็ใจกำหนด  อย่าไปกำหนดบุคคลอื่นเพื่อทำให้ตัวเองมีความสุขเพราะสุดท้ายก็ต้องเจอกับความทุกข์แบบเต็มๆ แล้วก็ไม่มีใครบอกให้เราสุขหรือทุกข์ได้นอกจาก ตัวเราเอง สุขเพราะอยากให้เขารัก หรือสุขที่ได้รักเขา(น้ำเน่า)
 เคยถูกกระทำ ด้วยคำพูด เล็กๆของคนนางคน ...แต่เจ็บลึกๆ ทั้งๆที่คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้ใครเจริญขึ้นเลย ...ระดับความสุขเขามันอาจจะสูงขึ้น ต้องกันข้าม ความเป็นคนในระดับจิตใจก็ต่ำลง แบบสวนทาง
 อย่าเห็นความทุกข์ของผู้อื่น เสมือนว่า กำลังสร้างความสุขให้ตัวเอง เพราะนั้นหมายถึง คุณกำลังมีความทุกข์มากกว่าเขา แล้วยังไม่สามารถหาความสุขด้วยตัวเอง อาจจะเป็นคนที่น่าสงสาร เพราะทั้งชีวิตเขาอาจจะมีไม่ความสุขเลย
โมโหก็เท่านั้น โกรธก็เท่านั้น เสียใจก็เท่านั้น ทุกข์ก็เท่านั้น แล้วสุข ก็เท่านั้นเพราะ วันๆหนึ่ง ก็เท่านั้น ... ถ้าสังเกต จะรู้ว่า ชีวิตคน ก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตเรา มันก็เท่านั้น ...อยู่ไปจนหมดลมหายใจก็เท่านั้น...
 “ดีสุดขั้ว” ......  “ชั่วสุดขีด”  ระหว่างคำสองคำนี้ก็คือ “มนุษย์” เพราะไม่มีใครจะดี หรือ ชั่ว สุดขั้ว สุดขีด
 อย่าถามในสิ่งที่ (ถ้าเป็น)คุณเองก็ไม่อย่างตอบ เพราะนั้นเท่ากับว่า คุณไม่เคารพในความเป็นคนของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ...ถ้าคุณคือคนสำคัญของเขา เขาจะเล่าให้คุณฟัง...ในที่สุด
 อย่ามั่วแต่คิดถึงตัวเอง จนเผลอไปทำร้ายผู้อื่น
 มองโลกให้กว้าง แต่ คิดให้เล็กลง
 อย่าวิ่งตามความต้องการของตัวเอง...เพราะมันเหนื่อย และจะเหนื่อยมากว่าถ้าวิ่งตามความต้องการของคนอื่น เดินไปเรื่อยๆก็พอ รอวันที่เขาหันหลังกับมา หรือถ้าเจอทางแยกที่น่าจะดีกว่า ก็หยุด และเลี้ยวไปทางใหม่ซะ เพราะ เขาอาจจะไม่หันหลังกับมามองอีกเลย ก็เป็นไปได้
 อะไรๆที่ผ่านมา ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ โดยเฉพาะ “ความผิดพลาด”ความผิดพลาด ... มีมากมายหลายคนที่คิดได้ แต่อีกหลายคน ยังกระทำซ้ำๆ เรื่องเดิมๆ ครั้งใหม่ๆ  เลือกทำในสิ่ง ที่ไม่ทำให้เป็นทุกข์
จะอยู่ต่อไปอย่างไง กับความไม่มั่นใจ เพราะในแต่ละลมหายใจ เข้าออก กลัวและหวาดระแวง ว่า ความทุกข์ จะวิ่งไล่ตี เหมือนเช่นที่ผ่านมา
เรื่องราวที่ ทำให้เป็นทุกข์ วันนี้ เหมือนกับมันเคยเกิดขึ้นแล้ว เพราะมันคือ การกระทำที่เคยทำ และ ถูกกระทำในวันนี้
มีคำถาม ของความสงสัย จากใคร คนหนึ่ง ที่ถามกี่ครั้งก็รู้ว่าเขา..“ห่วงใย” และไม่มีวันที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้เลย ..
 อดีต ที่ไม่เคย อยากให้อยู่ในความทรงจำ อนาคตที่ ไม่กล้าเผชิญ เพราะปัจจุบัน สุข กับ ทุกข์ เท่ากัน ไม่กล้าเรียกร้องความสุขจากอนาคต เพียงคิดว่ามันอาจจะดีกว่าอดีตเท่านั้น
 ให้เลือกระหว่าง จุดที่คุณยืนแล้วมองเห็น คนทั้งโลก กับ จุดที่ยืนอยู่แล้วมองไม่เห็นใครเลย คุณจะเลือกยืนอยู่ตรงไหน
 ขยะแขยง ความวุ่นวาย
 ไม่ว่าจะหวังดี หรือประสงค์หลาย หยุดยุ่งกับคนอื่นๆ สักที เพราะ ไม่เคยได้รับผลดีจากการกระทำนั้นเลย
 จงเอาชนะความเจ็บปวดในความเป็นมนุษย์
 ชีวิต ... คงเหมือนการทำบัญชี รายรับ รายจ่าย ถ้าไม่รู้เลยว่าสถานะภาพทางการเงินเป็นอย่างไง ก็ไม่รู้สถานะชีวิตตัวเองเหมือนกัน ...เวรกรรม...
 เคยคิดว่า คนๆหนึ่งดูดี จนไม่น่าเชื่อว่า ในใจ น่าเกลียดจนไม่น่ามองเหมือนหน้าตา(เน่าใน)
 มันหน้ากลัวเกินไปสำหรับการเรียกร้อง ความรัก ความห่วงใย จากใครบ้างคนเพราะมันต้องแลกกับความสุขของตัวเองทั้งชีวิต ..ฉะนั้น ปล่อยให้มันจบลง...มันเจ็บปวดเกินไปถ้าต้องแลก
 บางที ระยะ....ห่าง... ก็ช่วยให้เราหยุดทบทวนการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา และได้ตัดสินใจเลือกที่ จะใช้ชีวิตที่เหลือในแบบใหม่ๆ ...โดยลำพัง...
 “คิดได้” หมายถึง สำนึกได้ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้น ผิด ผิดจริงๆ
 ปัจจุบัน นั่งมองคนอื่นๆรอบข้างที่กำลังใช้ชีวิตผิดพลาด เหมือนภาพในอดีตของตัวเอง คิดให้มากๆจะได้ไม่ถูกความผิดพลาดซ้ำเติมอีก ให้ปวดใจเล่นอีก
 มนุษย์ มักจะลืมคนที่ดีกับเราเสมอ และเลือกจะจดจำแต่คนที่ทำร้ายเราตลอดเวลา....กระทืบหัวใจตัวเองเสมอๆ
 ชีวิตจริง น้ำเนากว่าในนิยาย แต่ มันไม่มีความพอดี หรือความบังเอิญ เหมือนในนิยาย...
 รู้ไหม ทำไม...เรารู้สึกแย่ กับคำพูดของคนรอบข้าง...ก็มันเป็นเรื่องจริงที่เลวร้าย มัยเลย เจ็บ...ปวด ที่ใจ
 ทำไม ต้องเจ็บปวด กับการยอมรับ... แล้วให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี อย่าไปนึกเสียดายความเลวร้ายเลย ...ชีวิต ขอให้มันจบลงด้วยดี เริ่มต้นใหม่อย่างมั่นใจต่อไป..ขอโชคดี